บริษัท แอคเคาท์มาย จำกัด
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ภาษีที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง เป็นภาษีท้องถิ่นที่เก็บจากเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในประเทศไทย โดยมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายใหม่ภายใต้ พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้:
1. ประเภทของทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษี
• ที่ดิน: ที่ดินที่ใช้สำหรับเกษตรกรรม, ที่อยู่อาศัย, พาณิชยกรรม หรือที่ดินรกร้าง
• สิ่งปลูกสร้าง: อาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่บนที่ดิน เช่น บ้าน โรงงาน อาคารพาณิชย์
2. อัตราภาษี
อัตราภาษีจะแตกต่างกันตามประเภทของการใช้ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง:
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการเกษตร: อัตราภาษีเริ่มต้นที่ 0.01% ของมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยมีการปรับเพิ่มตามมูลค่าของทรัพย์สิน
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการอยู่อาศัย: อัตราภาษีเริ่มต้นที่ 0.02% สำหรับมูลค่าที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท ถ้ามีมูลค่าสูงกว่านี้จะมีอัตราภาษีที่สูงขึ้น
• ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม: อัตราภาษีเริ่มต้นที่ 0.3% ของมูลค่าทรัพย์สิน โดยอาจเพิ่มขึ้นถึง 1.2% ขึ้นอยู่กับมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่รกร้างหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์: อัตราภาษีเริ่มต้นที่ 0.3% และจะเพิ่มขึ้นทุก 3 ปีจนสูงสุดถึง 3%
3. การยกเว้นและการลดหย่อนภาษี
• การใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร: เจ้าของที่ดินที่ใช้ทำการเกษตรสามารถขอรับสิทธิการลดหย่อนภาษีได้
• ที่อยู่อาศัยหลัก: เจ้าของที่อยู่อาศัยที่เป็นบ้านหลังแรกมีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับมูลค่าที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท
• ที่ดินว่างเปล่า: ที่ดินว่างเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จะมีอัตราภาษีเพิ่มขึ้นตามลำดับทุก 3 ปี จนกว่าจะมีการนำไปใช้ประโยชน์
4. การชำระภาษี
• ผู้มีหน้าที่เสียภาษีต้องยื่นชำระภาษีภายใน เดือนเมษายนของทุกปี หากไม่ชำระภาษีตามกำหนดจะต้องเสียค่าปรับและเบี้ยปรับตามที่กฎหมายกำหนด
การบริหารจัดการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเจ้าของทรัพย์สิน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและภาระทางกฎหมาย